วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชาวจีนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2411 - 2453

ในรัชสมัยของพระองค์ มหาอำนาจตะวันตกแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำประเทศผ่านวิกฤตและดำรงเอกราชไว้ได้ ทรงพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยแบบตะวันตก และปฎิรูประบบราชการซึ่งรวมถึงยกเลิกระบบเจ้าภาษีนายอากรเกือบทั้งหมด แต่พ่อค้าจีนก็สามารถปรับตัวและสร้างความมั่งคั่งจากธุรกิจใหม่โดยเฉพาะการค้าข้าว ชาวจีนในเมืองไทยเริ่มรวมตัวกันในรูปแบบใหม่เป็นสมาคมกลุ่มภาษาต่าง ๆ และองค์กรสาธารณกุศลช่วยเหลือสังคม ขณะที่การรวมกลุ่มแบบสมาคมลับถูกปราบปรามอย่างจริงจัง ช่วงปลายรัชการรัฐบาลยกเลิกการผูกปี้คนจีน เปลี่ยนเป็นเก็บเงินช่วยราชการแผ่นดินปีละ 6 บาทเท่ากับคนไทย
ชุมชนจีนย่านสำเพ็งในรัชสมัยนี้ได้รับการพัฒนาอย่างมาก มีการตัดถนนใหม่หลายสายรวมถึงถนนเยาวราช และมีวัดจีนเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก รวมทั้งโรงพยาบาลของคนจีน ธนาคารจีน หนังสือพิมพ์จีน และโรงเรียนจีน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดที่จะเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินที่วัดต่าง ๆ ในย่านสำเพ็งเป็นประจำ ทำให้ชาวจีนย่านนี้ได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด

สภาวการณ์ในประเทศจีน ความอ่อนแอของราชวงศ์ชิงที่ทำให้จีนต้องแพ้สงครามกับต่างชาติหลายครั้ง ทำให้เกิดกลุ่มปฎิวัติที่มุ่งโค่นล้มราชวงศ์ชิงและสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้นำกลุ่มปฎิวัติเดินทางไปยังชุมชนจีนโพ้นทะเลในหลายประเทศเพื่อเผยแพร่แนวความคิดและแสวงหาการสนับสนุนโดยได้เข้ามาเมืองไทยถึง 4 ครั้ง ก่อให้เกิดกระแสชาตินิยมขึ้นในหมู่ชาวจีนในเมืองไทยเป็นอย่างมาก ส่วนฝ่ายราชสำนักชิงก็หันมาให้ความสำคัญ กับชาวจีนโพ้นทะเลเช่นกัน โดยยกเลิกกฎหมายห้ามอพยพออกและกลับเข้าประเทศ อีกทั้งให้ยศถาบรรดาศักดิ์แก่ผู้สนับสนุนราชสำนัก นอกจากนี้ยังออกพระราชบัญญัติสัญชาติจีนฉบับแรก เมื่อ พ.ศ. 2452 ซึ่งรับรองบุตรของบิดาที่เป็นชาวจีนโพ้นทะเลให้ได้สัญชาติจีนโดยกำเนิด โดยไม่คำนึงถึงสถานที่เกิดหรือสัญชาติอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น