วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชาวจีนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2468 - 2477

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไทยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นเดียวกันทั่วโลก ขณะเดียวกันชาวจีนก็เดินทางเข้ามาเมืองไทยมากเป็นประวัติการณ์ จนไทยต้องเริ่มจำกัดจำนวนคนต่างด้าวเข้าเมือง ความขัดแย้งในประเทศจีนประกอบกับการที่จีนถูกญี่ปุ่นรุกราน ส่งผลให้ชาวจีนในเมืองไทยเคลื่อนไหวทางการเมืองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียนจีนที่มีอยู่หลายร้อยแห่ง รัฐบาลไทยจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลโรงเรียนจีน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนจีนในกรุงเทพฯ ที่ปฎิบัติตามระเบียบของราชการ 4 แห่ง เพื่อสร้างกำลังใจแก่ผู้บริหารของโรงเรียน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและชาวไทย โดยทรงขอให้โรงเรียนจีนสอนให้นักเรียนรักเมืองไทยด้วย นอกจากที่สอนให้รักประเทศจีน และทรงย้ำถึงความสนิทสนมกลมเกลียวระหว่างจีนและไทยที่มีมาช้านาน ในรัชกาลนี้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อ พ.ศ.2475

สภาวการณ์ในประเทศจีน ประชาชนจีนกว่าครึ่งประเทศลุกขึ้นต่อต้านอำนาจขุนศึก พรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ร่วมกันเอาชนะขุนศึกต่าง ๆ ได้ หลังจากนั้นพรรคก๊กมินตั๋งจัดตั้งรัฐบาลขึ้นที่นานกิง และปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง เกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง 2 พรรคกระจายไปทั่วประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์ต้องหนีไปตั้งหลักในเขตภูเขาตอนในหรือทางใต้ของประเทศ บางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ และส่วนหนึ่งได้เข้ามายังประเทศไทย ขณะเดียวกันนั้นญี่ปุ่นก็เข้ายึดครองดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น