วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชาวจีนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ.ศ. 2498 - ปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก ทรงอุทิศพระองค์ให้กับการพัฒนาประเทศ โดยได้เสด็จพระราชดำเนินไปในทุกท้องถิ่น และประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรทุกเชื้อชาติศาสนา จึงทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่าให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและเกิดสำนึกในความเป็นคนไทยอย่างเท่าเทียมกัน ต้นรัชสมัยเป็นช่วงสงครามเย็นที่ทั่วโลกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ไทยอยู่ในฝ่ายโลกเสรี ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นคอมมิวนิสต์ จึงยังไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ การติดต่อกันเป็นเรื่องยาก และการอพยพของชาวจีนเข้ามาในเมืองไทยก็ยุติลง จนถึง พ.ศ.2518 ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ชาวไทยและชาวจีนจึงเริ่มติดต่อกันอย่างเสรีอีกครั้ง และในระดับประเทศก็มีสัมพันธไมตรีที่แน่นแฟ้นตลอดมา ในรัชกาลนี้ชุมชนจีนเยาวราชเฟื่องฟูถึงขีดสุดในระหว่าง พ.ศ. 2490 - 2500 กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งบันเทิงชั้นนำของกรุงเทพฯ

สภาวการณ์ในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งมีเหมาเจ๋อตุงเป็นผู้นำ สามารถเอาชนะพรรคก๊กมินตั๋ง และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2492 โดย จัดตั้งรํฐบาลขึ้นที่กรุงปักกิ่ง หลังจากนั้นได้ใช้นโยบายปิดประเทศ และปฎิรูปเศรษฐกิจในแนวทางสังคมนิยมอย่างเข้มข้น ตามมาด้วยการปฎิวัติวัฒนธรรมซึ่งส่งผลกระทบในทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนในประเทศไทยกับญาติพี่น้องที่ประเทศจีนต้องหยุดชะงักไปในระยะนี้ เพราะไม่สามารถติดต่อกันได้ เมื่อเหมาเจ๋อตุงถึงแก่อสัญกรรม ใน พ.ศ. 2519 ยุคของการปฎิวัติวัฒนธรรมก็สิ้นสุดลง ประเทศจีนภายใต้การนำของเติ้งเสี่ยวผิงเปลี่ยนมาดำเนินนโยบายเปิดประเทศสู่สังคมโลก ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาชาติและพัฒนาเศรษฐกิจสู่ความทันสมัย ส่งผลให้ประเทศจีนเจริญก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น